เป็นเรื่องน่าเสียดายหากคุณพลาดการเข้าชมพื้นที่ 101 เฮกตาร์ริมน้ำใน อ่าวมารีน่า เบย์ สิ่งก่อสร้างแห่งอนาคตที่สวยงามอลังการ 2 แห่งนี้ตั้งอยู่ภายในบริเวณ Gardens by the Bay ซึ่งได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม

นั่นก็คือ เรือนกระจกปรับอากาศ Flower Dome (ฟลาวเวอร์โดม) และ Cloud Forest (คลาวด์ฟอเรสต์) ซึ่งมีชื่ออยู่ในบันทึกสถิติโลกกินเนสส์เมื่อปี 2015 ในฐานะเรือนกระจกที่ใหญ่ที่สุดในโลก หลังคากระจกที่ไม่มีอะไรค้ำนี้ครอบคลุมพื้นที่กว้างโล่งซึ่งไม่มีเสาต้นใหญ่ขวางกั้นแต่อย่างใด

นอกจากการออกแบบอันล้ำสมัยแล้ว เรือนกระจกเหล่านี้ยังใช้เทคโนโลยีอันทันสมัยเพื่อประสิทธิภาพด้านพลังงานที่ดียิ่งขึ้น

โดมปรับอากาศ
ภายใน Cloud Forest Dome ที่สวยงามแห่งนี้มีต้นไม้กว่า 32,000 ต้น รวมทั้งสิ้น 160 สายพันธุ์

ฟลาวเวอร์ โดม จำลองภูมิอากาศแบบแห้งและเย็นของภูมิภาคต่าง ๆ เช่น แคลิฟอร์เนียและแอฟริกาใต้ ที่นี่มีพืชพันธุ์มากกว่า 32,000 ต้น โดยประกอบด้วยพันธุ์พืชกว่า 160 ชนิด

อีกหนึ่งสถานที่ที่อากาศเย็นและมีหมอกปกคลุม คุณต้องไม่พลาดคือ Cloud Forest Dome ที่มี “Cloud Mountain” (ภูเขาสูงเทียมเมฆ) สูงตระหง่านกว่า 35 เมตรปกคลุมด้วยกล้วยไม้ เฟิร์น และสับปะรดสี ภายในมีน้ำตกในร่มที่สูงถึง 30 เมตร

ต้นซูเปอร์ทรีที่แสนวิเศษ
ผู้คนบน OCBC Skyway ซึ่งเป็นทางเดินลอยฟ้าระหว่างซูเปอร์ทรีสองต้น

คุณจะได้ชมซูเปอร์ทรีอันโดดเด่น ซึ่งเป็นสวนแนวตั้งสูง 25 ถึง 50 เมตร โดยเป็นแหล่งเก็บกักน้ำฝน และทำหน้าที่ผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ และเป็นเครื่องระบายอากาศสำหรับเรือนกระจกของสวนแห่งนี้

ถ้าคุณไม่กลัวความสูง แนะนำให้ลองเดินเที่ยวบนทางเดินลอยฟ้า OCBC Skyway ระยะทาง 128 เมตร ซึ่งเชื่อมระหว่างซูเปอร์ทรีสองต้น คุณสามารถชมวิวมุมสูงของสวนแห่งนี้ Supertree Observatory ซึ่งอยู่จุดสูงสุดของซูเปอร์ทรีต้นที่สูงที่สุดในบรรดาซูเปอร์ทรีทั้ง 18 ต้น ช่วยให้คุณสามารถชมวิวทิวทัศน์อันงดงามของ Marina Bay (อ่าวมารีน่า) โดยอยู่สูงจากพื้นดิน 50 เมตร

เมื่ออาทิตย์ตกดิน การแสดง Garden Rhapsody ก็เริ่มขึ้น การแสดงแสงสีเสียงอันตระการตานี้จัดขึ้นทุกคืนท่ามกลางต้นซูเปอร์ทรี จากนั้น เชิญลิ้มลองอาหารในบรรยากาศสุดโรแมนติกที่ร้าน Pollen ใน Flower Dome หรือร้านอาหารที่ศูนย์อาหาร Supertree Food Hall หรือชิมอาหารท้องถิ่นที่ดีต่อสุขภาพได้ที่ Satay by the Bay